“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานสถานการณ์เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังแข็งค่าผ่านแนวสำคัญหลายแนว ประกอบกับมีปัจจัยบวกช่วงต้นสัปดาห์จากข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/65 ของไทยที่ออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่เงินดอลลาร์ ทยอยอ่อนค่าลงตามการย่อตัวของบอนด์ยีลด์สหรัฐ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ออกมาอ่อนแอ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. และยอดขายบ้านมือสองที่ลดลง 3 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ หลังจากที่ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวกลับลงมา อย่างไรก็ดีเงินดอลลาร์ กลับมาเผชิญแรงขายอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนเปลี่ยนจุดสนใจไปที่การประเมินความเป็นไปได้ของการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากเฟดมากขึ้น
ในวันศุกร์ (20 พ.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ 34.27 (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 34.25) เทียบกับระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 พ.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 17-20 พ.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทย 12,600 ล้านบาท และ 9,362.4 ล้านบาท ตามลำดับคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-27 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 33.80-34.70 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนเม.ย. รายงานการประชุมเฟดเมื่อ 3-4 พ.ค. สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย อัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือน เม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/65 (ครั้งที่ 2) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลข PMI เบื้องต้นสำหรับเดือน พ.ค. ของสหรัฐ ยุโรป และอังกฤษด้วยเช่นกัน