เมื่อ 9 พ.ค. 2566 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหลักทรัพย์ ในเดือน เม.ย. 2566 มีความผันผวนค่อนข้างเยอะ โดยปรับลดลง 5.0% จากเดือนก่อนหน้า SET Index ปิดที่ 1,529.12 จุด สาเหตุหลักมาจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด (Fed) ที่ล่าสุดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ และจะไม่มีการลดดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ซึ่งต่างจากมุมมองของนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยในปลายปีนี้ เพราะกังวลเศรษฐกิจถดถอย
โดยปัจจัยเชิงพื้นฐานเศรษฐกิจของโลก และไทย ยังแข็งแกร่ง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ (IMF) ได้คาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย เติบโต 3.4% ซึ่งไม่ได้ปรับลดลงเยอะอย่างที่กังวลกันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ในส่วนภาพรวมของไทยภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวมีสัญญาณเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้บัญชีดุลสะพัดของไทยกลับมาเกินดุล 2 เดือน ติดต่อกัน (ก.พ.-มี.ค.) ทำให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น มากกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีนักลงทุนสนใจกองทุนหุ้นไทยมากขึ้น โดยกองทุนหุ้นไทย มีเงินไหลเข้าสุทธิสะสม 3 เดือนแรกรวม 3.3 พันล้านบาท ถือเป็นเม็ดเงินที่ไหลเข้าระดับพันล้านครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งกองทุน SSF ในไตรมาสแรกนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.1 พันล้านบาท
ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในตลาดหุ้นไทยช่วง 4 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 62,461 ล้านบาท โดยต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ 7,901 ล้านบาท แต่เริ่มมีสัญญาณขายหุ้นไทยน้อยลงแล้ว และล่าสุดวานนี้ (8 พ.ค.66) ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยแล้ว 4,104 ล้านบาท ซึ่งต้องติดตามในเดือน พ.ค. ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนให้ FundFlow ไหลกลับเข้ามาหรือไหม่ เนื่องยังคงมีความกังวลเรื่องดอกเบี้ยเฟด และวิกฤตธนาคารสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักลงทุนกำลังวลในตอนนี้ คือเรื่องของเงินเฟ้อ ว่าจะปรับลดลงหรือไม่ หลังจากที่ธนาคารกลางหลายประเทศปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่ง ไอเอ็มเอฟ ประเมินว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานไปจนถึงปีหน้า
ขณะเดียวกันเรื่องวิกฤตธนาคารเล็กล้มละลายในสหรัฐฯ แม้ล่าสุดทางรัฐบาลสหรัฐฯจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว แต่สิ่งที่ต้องติดตามต่อคือ จะกระทบการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯหรือไม่ โดยจากข้อมูลล่าสุดพบว่ายอดสินเชื่อของธนาคารในสหรัฐฯเริ่มปรับลดลงเล็กน้อยแล้ว ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป แต่ปัจจุบันยังไม่พบว่ามีสัญญาณที่จะทำให้เกิดเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย
หุ้นไทยไร้ปรากฏการณ์ "Sell in May" โบรกฯเผยปัจจัยหนุนทั้งใน-นอกประเทศ
ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อการเลือกตั้ง 2566 ออกนโยบายดึงดูดต่างชาติ
ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ปีนี้ตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก นักลงทุนมีการปรับพอร์ตที่ค่อนข้างเร็ว อยากให้ติดตามข้อมูลให้ดีการที่เงินไหลออก ไม่ได้ออกทุกกลุ่มอุตสาหกรรม บางกลุ่มที่ฟื้นตัวดีปีนี้ ทั้งการท่องเที่ยว โรงพยาบาล การบริโภตในประเทศ พบว่าไม่ได้มีเงินไหลออกมากนัก จึงอยากให้ติดตามข้อมูลให้ดีว่ามีผลกระทบกับบริษัทในกลุ่มไหนมากหรือน้อย ดังนั้นอย่ามองว่าทุกอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบในเรื่องเดียวกัน เพราะว่าไทยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ซึ่งตอนนี้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงไม่ได้ถูกนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเทขายหุ้นมากนัก